NFT คืออะไร ความหมายพื้นฐาน ประเภท และตัวอย่างแพลตฟอร์มสำหรับมือใหม่

NFT คืออะไร? ความหมายและพื้นฐาน

NFT คือ เหรียญที่ไม่สามารถทดแทนได้หรือสินทรัพย์ เช่น งานศิลปะ เนื้อหาดิจิทัล หรือ วิดีโอ ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและมีการทำให้เป็นโทเคนผ่านบล็อกเชน NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token ซึ่งหมายถึงโทเคนที่มีรหัสระบุตัวตนที่ไม่ซ้ำกันซึ่งถูกสร้างจากข้อมูลเมตาผ่านฟังก์ชันการเข้ารหัส โทเคนเหล่านี้จะถูกเก็บไว้บนบล็อกเชน ส่วนสินทรัพย์ตัวจริงจะมีการเก็บไว้ในที่อื่น ๆ ความเกี่ยวข้องระหว่างโทเคนและสินทรัพย์ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก (Investopedia)

NFT คืออะไร

NFTs สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงิน สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) หรือ NFT อื่น ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดและเจ้าของกำหนด ตัวอย่างเช่น คุณอาจวาดหน้ายิ้มบนกล้วย ถ่ายรูป แล้วทำให้เป็น NFT บนบล็อกเชน ใครก็ตามที่มีคีย์ส่วนตัวของโทเคนนั้น จะเป็นเจ้าของสิทธิทั้งหมดใน NFT นั้น ๆ

NFTs ถูกสร้างขึ้นมานานก่อนที่จะได้รับความนิยมในวงกว้างในปี 2017 NFT ชิ้นแรกที่ถูกขายคือ “Quantum” ซึ่งออกแบบโดย Kevin McKoy ในปี 2014 บนบล็อกเชนที่ชื่อ Namecoin ก่อนจะถูกสร้างใหม่บน Ethereum และขายในปี 2021 ในอดีตอุปสรรคการซื้อขาย NFT และการโอนกรรมสิทธิ์บนบล็อกเชนได้จำกัดการขยายตัวของ NFT แต่ในปัจจุบัน บล็อกเชน Ethereum ได้พัฒนาจนทำให้สามารถสร้างโทเคนและซื้อขายได้อย่างสะดวก ทำให้การเข้าร่วมใน NFT ง่ายขึ้นและลดอุปสรรคในการเข้าใช้งาน NFTs ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐาน ERC-721 (Ethereum Request for Comment #721) ซึ่งกำหนดวิธีการโอนความเป็นเจ้าของ วิธีการยืนยันธุรกรรม และวิธีที่แอปพลิเคชันจัดการการโอนอย่างปลอดภัย

ประเภทของ NFT มีกี่ประเภท? ตัวอย่างต่าง ๆ

ตลาด NFT ในช่วงแรกส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่งานศิลปะดิจิทัลและของสะสม แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาขึ้นมากมาย ตัวอย่างเช่น ตลาด NFT ยอดนิยมอย่าง OpenSea มีประเภทของ NFT ดังนี้:

  1. Photography: ช่างภาพสามารถทำให้งานของตนเองเป็นโทเคนและเสนอสิทธิในการเป็นเจ้าของทั้งหมดหรือบางส่วนแก่ผู้ซื้อได้ เช่น แอคเคาท์ชื่อ erubes1 ใน OpenSea มีคอลเลกชัน “Ocean Intersection” ซึ่งเป็นภาพถ่ายมหาสมุทรและรูปเล่นเซิร์ฟที่สวยงาม มีการวางขายและมีผู้เข้ามาซื้อเพื่อเป็นเจ้าของจำนวนมาก
  2. Sports: คอลเลกชันงานศิลปะดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับคนดังและบุคคลในวงการกีฬา
  3. Trading cards: การ์ดการค้าดิจิทัลที่เป็นโทเคน บางใบเป็นของสะสม ขณะที่บางใบสามารถนำไปแลกเปลี่ยนในเกมได้
  4. Utility: สามารถใช้แทนการเป็นสมาชิกหรือปลดล็อกสิทธิประโยชน์ต่างๆ
  5. Virtual worlds: NFTs ในโลกเสมือนที่มอบสิทธิในการเป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่เสื้อผ้าในเกมไปจนถึงทรัพย์สินดิจิทัล
  6. Art: หมวดหมู่ทั่วไปของ NFTs ที่รวมงานศิลปะตั้งแต่ศิลปะพิกเซลไปจนถึงศิลปะนามธรรม
  7. Collectibles: เช่น Bored Ape Yacht Club, Crypto Punks และ Pudgy Panda
  8. Domain names: NFTs ที่แทนการเป็นเจ้าของชื่อโดเมนสำหรับเว็บไซต์
  9. Music: ศิลปินสามารถทำให้งานเพลงของตนเป็นโทเคน และมอบสิทธิให้ผู้ซื้อแบบที่ศิลปินต้องการได้

หนึ่งในผลงานที่อยู่ในรูปแบบของ NFT หรือ Non-Fungible Token ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ Cryptokitties ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2017 Cryptokitties เป็นตัวแทนดิจิทัลของแมวที่มีรหัสระบุที่ไม่ซ้ำกันบนบล็อกเชน Ethereum ทุกตัวมีเอกลักษณ์และราคาที่แตกต่างกัน

ประเภทของ NFT มีกี่ประเภท ตัวอย่างต่าง ๆ

สามารถผสมพันธุ์และสร้างลูกหลานที่มีคุณสมบัติและมูลค่าที่แตกต่างจากพ่อแม่ได้ ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากเปิดตัว Cryptokitties ได้มีการสร้างฐานแฟนคลับที่ใช้ Ether หลายล้านเพื่อซื้อและเลี้ยงดูแมวของตนเอง

แพลตฟอร์มสำหรับ NFT: OpenSea และอื่นๆ

หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม NFT และเริ่มต้นขายหรือเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ในราคาที่ดีที่สุด ผู้ลงทุนควรศึกษาว่าตลาด NFT มีอะไรบ้างเพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวมเว็บขายภาพ NFT 10 ตัวเลือกในรูปแบบตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลักของตลาด NFT ต่าง ๆ ดังนี้ (101Blockchains)

แพลตฟอร์ม ปีที่เปิดตัว จุดมุ่งหมายหลัก สกุลเงินดิจิทัลที่รองรับ ค่าธรรมเนียม วิธีการชำระเงิน คุณสมบัติพิเศษ
OpenSea 2017 สินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไป (ศิลปะ ดนตรี ภาพถ่าย) Ethereum, Solana, USDC ค่าธรรมเนียม 2.5% + ค่าแก๊ส สกุลเงินดิจิทัล (ไม่รองรับสกุลเงิน Fiat) – ใช้งานง่าย

– ตั้งค่าเริ่มต้นง่าย

– สามารถสร้าง NFTs

– เป็นที่นิยมในหมู่ผู้สร้าง NFT

Rarible 2020 ศิลปะ ของสะสม เกมดิจิทัล Ethereum, Tezos, Flow ค่าธรรมเนียม 2.5% + ค่าแก๊ส สกุลเงินดิจิทัล/ บัตรเครดิต/ Fiat – มีโทเคน RARI สำหรับการโหวต

– ระบบกระจายอำนาจ – ร่วมมือกับ Adobe สำหรับข้อมูลเมตา

Jupiter Meta 2021 – NFTs ทางวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์

– สภาพแวดล้อมในโลกเสมือน

สกุลเงินดิจิทัล ไม่มีค่าแก๊ส สกุลเงินดิจิทัล – มุ่งเน้นวัฒนธรรมอินเดีย

– ไม่มีเสียค่าแก๊ส

– การผสาน Web 3.0 และ Metaverse

BuyUCoin 2016 ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีการจัดลำดับ NFT ที่ให้ผลกำไร Ripple, Ethereum, Bitcoin, อื่น ๆ ค่าธรรมเนียม 0.24% สำหรับผู้สร้าง UPI (ผู้ใช้ในอินเดีย), สกุลเงินดิจิทัล – ใช้งานง่าย

– อนุญาตให้ประมูล NFT

– มุ่งเน้นตลาดอินเดีย

NFTproX 2022 สินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไป (ศิลปะ ดนตรี ภาพถ่าย) สกุลเงินดิจิทัล ไม่มีค่าธรรมเนียม สกุลเงินดิจิทัล – ฝ่ายบริการลูกค้า 24 ชม.

– ระบบความปลอดภัยโดย SSL และ DDoS

– การระดมทุนสำหรับโครงการ NFT

Binance NFT 2021 งานศิลปะ อุปกรณ์เกม ของสะสม Binance Coin (BNB), Ethereum ค่าธรรมเนียม 1% Binance Coin (BNB), Ethereum, อื่น ๆ – ค่าธรรมเนียมต่ำ

– การผสมผสานกับบล็อกเชน Binance

– ใช้งานง่าย

Axie Marketplace 2020 สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเกม Axie Infinity Ethereum ค่าธรรมเนียม  4.25% + ค่าแก๊ส Ethereum มุ่งเน้นที่สินทรัพย์ในเกม Axie Infinity และ การซื้อขายไอเทม NFT ในเกม
SuperRare 2020 งานศิลปะดิจิทัล (วิดีโอ, 3D, ศิลปะ) Ethereum ค่าธรรมเนียม  3% Ethereum มุ่งเน้นศิลปะคุณภาพสูง
Bollycoin 2021 NFTs ที่เกี่ยวข้องกับบอลลีวูด สกุลเงินดิจิทัล ค่าแก๊ส สกุลเงินดิจิทัล ขับเคลื่อนโดยชุมชน Bollywood
WazirX 2018 NFT ทั่วไปสำหรับผู้สร้างงานในระดับภูมิภาค WRX, Binance Coin (BSC) ค่าแก๊ส WRX token, Binance Coin (BSC) – สร้างขึ้นบน Binance Smart Chain

– ค่าธรรมเนียมแก๊สต่ำกว่าบล็อกเชน Ethereum

วิธีการขายภาพ NFT บนแพลตฟอร์มต่างๆ

การสร้าง (Minting) และการแปลงภาพถ่ายของตนเองเป็น NFT เพื่อขายรูป NFT บน Opensea เป็นกระบวนการที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

วิธีการขายภาพ NFT บนแพลตฟอร์มต่างๆ

1. เลือกเครือข่ายบล็อกเชน

เครือข่ายบล็อกเชนมีหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่ทุกแบบจะสามารถสร้าง NFT ได้ สำหรับบล็อกเชนที่สามารถใช้สร้าง NFT ได้ต้องรองรับ Smart Contract ซึ่งจะปลดล็อกฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ NFT อย่างการซื้อขาย ตัวอย่างบล็อกเชนที่รองรับ NFT ได้แก่ Ethereum, Binance Smart Chain, Solana, Polkadot, Tezos และ Flow เป็นต้น

2. ตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโตที่รองรับเครือข่ายบล็อกเชน

กระเป๋าเงินคริปโตคือกระเป๋าดิจิทัลที่สามารถเก็บทั้งโทเคนที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ (fungible) และไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ (non-fungible) ยกตัวอย่างเช่น Ethereum เป็นบล็อกเชนที่ใช้สำหรับ NFT ที่พบมากที่สุด กระเป๋าเงินที่รองรับจะรวมถึง MetaMask, TrustWallet, WalletConnect และ Coinbase wallet กระเป๋าเงินเหล่านี้เป็นกระเป๋าที่ผู้ใช้เป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตนเอง (non-custodial) หากเลือกใช้บล็อกเชนอื่น ๆ ควรศึกษาว่ากระเป๋าใดเหมาะสมกับบล็อกเชนนั้น ๆ

3. เพิ่มสกุลเงินดิจิทัลในกระเป๋าเงิน

การเติมเงินในกระเป๋า สามารถทำได้โดยซื้อสกุลเงินคริปโตที่รองรับจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนและโอนเข้าสู่กระเป๋าของตนเอง

4. เลือกตลาด NFT

ตลาด NFT เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับซื้อขาย NFT ซึ่งมีตลาดหลายรูปแบบให้เลือก บางตลาดจะเหมาะสำหรับการขายภาพหรือรูปถ่าย เป็นเว็บขายภาพ nft เป็นหลัก ผู้ลงทุนสามารถศึกษาลักษณะเฉพาะของแต่ละตลาด เพื่อการตัดสินใจก่อนลงทุน

5. เชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับตลาด NFT ที่เลือก

การเชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับตลาดที่เลือกเริ่มต้นจากการตั้งค่าบัญชีและกรอกข้อมูลส่วนตัว หลังจากนั้นสามารถคลิกที่โปรไฟล์ของตนเองเพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

6. สร้าง NFT ของภาพถ่าย

เจ้าของผลงานสามารถอัพโหลดรูปภาพที่ต้องการทำเป็น NFT ในตลาด NFT ที่เลือก และควรกรอกรายละเอียดรูปภาพ เช่น ชื่อรูป ลิงก์เว็บไซต์ส่วนตัวของเจ้าของผลงาน คำบรรยายใต้รูป เพื่อให้น่าดึงดูดสำหรับผู้ซื้อ

7. เริ่มต้นขาย NFT

เมื่อสร้าง NFT ของภาพถ่ายเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการลงขายในตลาด ผู้ขายสามารถเลือกรูปแบบการขายได้ 2 รูปแบบ คือการตั้งราคาเองหรือการเปิดประมูล

การสร้างรายได้จาก NFT: เริ่มต้นสำหรับมือใหม่ 

มีคนจำนวนมากที่สามารถทำเงินได้เยอะจาก NFT และยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ต้องการเข้าร่วมแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมวิธีหาเงินจาก NFT สำหรับมือใหม่เอาไว้แล้วตามรายละเอียดด้านล่างนี้

1. ลงทุนใน NFT Presales หรือการขายสาธารณะ

NFT มีศักยภาพที่จะเพิ่มมูลค่าได้ด้วยปัจจัยการเก็งกำไรและความหายาก

ลงทุนใน NFT Presales หรือการขายสาธารณะ

การเข้าร่วมโปรเจกต์ NFT ที่มีแนวโน้มจะเติบโตตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นช่วยให้สามารถทำกำไรจากการขายต่อในอนาคตได้มากขึ้น NFTs ชั้นนำบางตัว เช่น Cryptopunks สามารถซื้อได้ในราคาต่ำระหว่าง $1 ถึง $34 แต่เมื่อความนิยม NFT เพิ่มขึ้นในปี 2021 มูลค่าของ NFT ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากความเป็นผู้นำในวงการ NFT

2. การซื้อและขาย NFT (Flipping)

โดยปกติแล้ว NFT สร้างรายได้จากการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร การซื้อและขายคือการซื้อในราคาต่ำแล้วขายในราคาที่สูงเพื่อหวังกำไรสูงสุด วิธีที่ดีที่สุดในการซื้อและขาย NFT คือการซื้อ NFT ทั้งหมดที่มีเมื่อยังมีราคาถูก (NFT ที่มีจำนวนจำกัดมักจะให้กำไรได้มากกว่า)

3. การสร้าง NFT ของตนเอง (Minting)

การสร้าง NFT คือการเผยแพร่สินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองเช่น งานศิลปะดิจิทัล ภาพถ่าย ไอเท็มในเกม วิดีโอ หรือเพลง ลงบนบล็อกเชนเพื่อให้สามารถซื้อขายได้ ตลาด NFT ชั้นนำอย่าง OpenSea ทำให้กระบวนการการทำเงินจากชิ้นงานของตนเองง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ สินทรัพย์ดิจิทัลที่สร้างยอดขายได้มากและประสบความสำเร็จควรมีเอกลักษณ์เฉพาะและความเป็นต้นฉบับ

4. เล่นเกม NFT เพื่อสร้างรายได้ (P2E)

การเล่นเกม NFT เพื่อทำเงินได้กลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีเกมยอดนิยม อย่าง Splinterlands หรือ Axie Infinity ที่เสนอโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้เล่นที่มีทักษะ

เล่นเกม NFT เพื่อสร้างรายได้ (P2E)

เกม NFT ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้ฟีเจอร์ “เล่นเพื่อสร้างรายได้” (Play to Earn) โดยรางวัลจะถูกมอบในรูปแบบของโทเคนภายในแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถนำไปใช้ซื้อไอเท็มในเกมหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเหรียญคริปโตได้ (airnfts)

NFT Art และเกมที่เกี่ยวข้องกับ NFT

ประเภทของ NFT ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด หลัก ๆ คือ NFT Art และ NFT Game

NFT Art คือ ประเภทของ NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ โดยมีความนิยม การใช้งาน และศักยภาพที่สูงกว่าประเภทอื่น ๆ การสร้างหลักฐานการเป็นเจ้าของผลงานถือเป็นหนึ่งในการใช้งานแรก ๆ ของเทคโนโลยี NFT งานศิลปะ NFT อาจมีตั้งแต่แผนภาพไปจนถึงกราฟิกดิจิทัลที่หายาก ของสะสม NFT Art มีทั้งภาพที่สร้างโดย AI และภาพถ่ายที่สร้างบนบล็อกเชนและนำมาขายบนตลาด NFT

ศิลปะ NFT ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเมื่อพื้นที่คริปโตทั้งหมดเริ่มให้ความสนใจในผลตอบรับที่ดีจาก

งานศิลปะเหล่านี้ ศิลปะ NFT ได้ดึงศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกเข้าสู่พื้นที่เพื่อยืนยันสิทธิ์ในงานศิลปะของตนบนบล็อกเชน ศิลปินยังได้สำรวจโอกาสในการสร้างมูลค่างานศิลปะเพิ่มเติมอย่างการขายลายเซ็นดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับผลงาน

นอกจากปริมาณการซื้อขายมหาศาลจากศิลปะ NFT และการสะสมงานศิลปะแล้ว งานศิลปะ NFT แต่ละชิ้นก็สามารถขายได้ในมูลค่าสูง ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ “Everydays: The First 5000 Days” และ “Human One” ของ Beeple ซึ่งขายได้ในราคา 69 ล้านดอลลาร์ และ 29 ล้านดอลลาร์ ส่วน CryptoPunks และ Bored Ape Yacht Club (BAYC) ของ Yuga Labs ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของการจัดอันดับมูลค่าการสะสมงานศิลปะ NFT โดย CryptoPunks ขายได้มากกว่า 23 ล้านดอลลาร์ ความเฟื่องฟูของวงการนี้ ทำให้เซเลบริตี้ระดับ A เช่น คริสเตียโน โรนัลโด นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ และเดนนิส ร็อดแมน นักบาสเกตบอล ได้ปล่อยงานศิลปะที่มีธีมเกี่ยวกับตนเองลงในบล็อกเชนเช่นกัน

ในส่วนของเกม NFT มักจะใช้ระบบเล่นเพื่อหารายได้ (P2E) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เกมคริปโต” ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในเกม เช่น สกิน อาวุธ อุปกรณ์ดิจิทัล ตัวละคร หรือที่ดินเสมือนในโลกเมตาเวิร์ส และสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เพื่อรับรางวัลทางการเงินหรือแลกเปลี่ยน NFT ของตนเองกับผู้เล่นคนอื่นเพื่อทำกำไร ตัวอย่างเกมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Axie Infinity, Gods Unchained, และ Decentraland

อย่างไรก็ตาม เกม NFT ไม่ได้มีแค่ประเภทเล่นสร้างรายได้ (P2E) เท่านั้น บางเกม เช่น Parallel เป็นเกมที่เล่นเพื่อสะสมไอเทมในเกม เป็นการนำเกมมาผสมผสานกับประสบการณ์การสะสมโดยรวม (nft now)